นักข่าว สนิท บิ๊ ก โจ๊ก พูดแล้วใครคือนักข่าวที่สนิท โอนเงินค่าข้าว หลักหมื่น
เปิดตัวเรื่องราวล่าสุดเกี่ยวกับ “นักข่าว สนิท บิ๊ ก โจ๊ก“, เราจะพาคุณลงไปสู่การสำรวจความลึกของการโอนเงินค่าข้าว หลักหมื่นที่เต็มไปด้วยความลึกลับ. บนเว็บไซต์ loptiengtrungtaivinh.edu.vn, เราจะพาคุณสู่การเข้าใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวตนของบุคคลที่ “บิ๊ก โจ๊ก” ได้โอนเงินอย่างกลิ่นกล่อม คือใคร? ความสัมพันธ์และเหตุผลที่นำไปสู่การกระทำเหล่านี้คืออะไร? มาทำความเข้าใจเพิ่มเติมในบทความด้านล่างนี้กันเถอะครับ.

I. บิ๊ ก โจ๊ก คือ ไคร?
บิ๊ก โจ๊ก (Big Joke) หรือ Surachet Hakpan เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงและตำรวจที่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในวงการตำรวจและสำนักข่าวในประเทศไทย. เขาเกิดเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2513 ในจังหวัดสงขลา และเติบโตขึ้นในบรรยากาศของครอบครัวที่มีความเคารพต่อกฎหมายและการบริหารจัดการสาธารณสุขในสังคม.
เขาได้รับการศึกษาในโรงเรียนมหาวชิราวุธสงขลาและโรงเรียนนายร้อยตำรวจ โดยเป็นประธานรุ่นที่ 47 ของโรงเรียนนายร้อยตำรวจ การศึกษาที่เขาได้รับเตรียมเสร็จสิ้นและที่สร้างพื้นฐานในการเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจมีบทบาทสำคัญในการสอดส่องและกำจัดอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและการป้องกันความละเมิดด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ.
บิ๊ก โจ๊ก ได้รับการยกย่องว่าเป็น “นายตำรวจผู้มากบารมี” เนื่องจากความคุ้มครองความปลอดภัยของประชาชนและสังคม เขามีบทบาทสำคัญในการบังคับใช้กฎหมายและการรักษาความปลอดภัยในสถานการณ์ต่างๆ ของประเทศไทย และได้เคยเป็นตำรวจที่ทำงานอย่างหนักและมุ่งมั่นเพื่อความเป็นธรรมและความเท่าเทียมในสังคม. ตลอดชีวิตของเขาในบริบทของตำรวจและผู้บังคับการตำรวจทำให้เขาเป็นบุคคลสาธารณะที่มีความรับผิดชอบและสร้างมาตรฐานสูงในการปกป้องสังคมและประชาชนไทย.
โดยสรุป, บิ๊ก โจ๊ก หรือ Surachet Hakpan เป็นตำรวจที่มีประสบการณ์และความรู้สึกของความสำคัญในการบังคับใช้กฎหมายและรักษาความปลอดภัยในสังคมไทย ท่านได้รับความเคารพและความยอมรับจากสังคมและกลายเป็นตัวอย่างในวงการตำรวจของประเทศไทย.

II. นักข่าว สนิท บิ๊ ก โจ๊ก พูดแล้วใครคือนักข่าวที่สนิท
นักข่าวที่มีความสนิทกับบิ๊กโจ๊ก (Big Joke) เป็นกลุ่มของนักข่าวที่เคยมีความสัมพันธ์และความร่วมงานกับบิ๊กโจ๊กในอดีต. การรายงานข่าวเรื่องนี้เกิดขึ้นในวันที่ 27 กันยายน 2566 เมื่อตำรวจ PCT ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) ร่วมกับตำรวจสืบสวนสอบสวนอาญชากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) และตำรวจไซเบอร์นำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษ พร้อมหมายค้นเข้าขอตรวจค้นบ้านพักของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) และมีลูกน้องคนสนิทถูกจับกุมหลายคนรวมถึงพลเรือนด้วย.
การสืบสวนยังพบว่ามีกลุ่มคนที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ของ “มินนี่” ถูกแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ
- กลุ่มที่ 1 ประกอบด้วยคนใกล้ชิดกับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ประมาณ 3-5 คน ซึ่งประกอบไปด้วย ภรรยา แม่ และน้องชาย.
- กลุ่มที่ 2 คือนักข่าว 4 คน.
- กลุ่มที่ 3 คือนอมินี ยังไม่ทราบจำนวนที่แน่ชัด.
- กลุ่มที่ 4 คือบัญชีม้า ยังไม่ทราบจำนวนที่แน่ชัด.
สำหรับกลุ่มที่ 2 คือนักข่าว 4 คน ได้ถูกตราบค้นและออกหมายจับ โดยการสัมภาษณ์ล่าสุดในรายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ เปิดเผยว่ามีการโอนเงินไปยังนักข่าว 4 คนเพื่อเป็นค่าข่าว โดยมีการโอนเงินให้ครั้งละ 10,000 บาท และให้เงินเข้ากับคนช่วยเขาในงานข่าว. นอกจากนี้ยังมีการบอกว่าเงินที่โอนมานั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ แต่เป็นเงินที่เขาให้ในฐานะค่าข่าวและสนับสนุนนักข่าว.
ในรายงานสื่อเสียงทางโทรทัศน์นี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่าเขามองเป็นมิตรจิตมิตรใจ และเป็นคนที่ใจกว้าง การให้เงินเป็นการสนับสนุนนักข่าวในสิ่งที่พวกเขาทำและเป็นค่าข่าว. นักข่าวที่สนิทกับเขามีทีมงานและมีการทำงานร่วมกันอย่างตั้งใจ ในทางกลับกันเขาไม่ได้ขอตังผมและไม่มีทางจะสนับสนุนผมด้วยเงิน แต่เป็นการสนับสนุนและช่วยเหลือในงานข่าวอื่น ๆ ที่เขาทำ. นอกจากนี้เขายังให้เงินเพื่อให้ไปหากินเองในหมู่คนของเขา.
III. โอนเงินค่าข้าว หลักหมื่น
การโอนเงินค่าข้าวหลักหมื่นของบิ๊กโจ๊ก (Big Joke) เป็นหนึ่งในข้อมูลที่น่าสนใจในกรณีนี้ โดยเขาได้กล่าวว่าเงินเส้นทางการเงินไปแตะนักข่าว 4 คน เป็นเงินที่ให้เป็นค่าข้าว โดยจำนวนเงินที่ให้กลุ่มนักข่าวคนนี้ครั้งละ 10,000 บาท และมีบอกว่าเขามีนักข่าวที่สนิทอยู่ 3-4 คน โดยนักข่าวที่เขาสนิทนี้ก็เคยได้รับเงินค่าข้าวจากเขา.
เป็นที่รู้กันว่าในงานข่าวบางส่วน นักข่าวอาจได้รับเงินค่าข้าวจากผู้ถูกสัมภาษณ์หรืออื่น ๆ เพื่อสนับสนุนการสร้างข่าว ซึ่งอาจเป็นการเคารพและสนับสนุนงานของนักข่าวด้วยวิธีที่ไม่เป็นทางการ การให้เงินค่าข้าวเป็นภาคสำคัญของวงการข่าวและสื่อมวลชนในบางครั้ง เพื่อให้นักข่าวสามารถดำเนินงานข่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพและความเป็นอิสระในการรายงานข่าว. แต่ก็ต้องระวังและรักษาความความนิยมและความไว้วางใจของประชาชนในงานข่าวอีกด้วย.
IV. อาชีพและผลงานของ ‘นักข่าวสนิท บิ๊ ก โจ๊ก’
‘นักข่าว สนิท บิ๊ ก โจ๊ก’ เป็นหนึ่งในบุคคลที่สำคัญในวงการสื่อสารและสื่อมวลชนในประเทศไทย ด้วยความอุตส่าห์และความสามารถในการวิเคราะห์อย่างคมชัดของตนเอง ท่านได้เผยแพร่ข้อมูลและรายงานเหตุการณ์ที่สำคัญในสังคมและการเมืองอย่างมืออาชีพ
หนึ่งในลักษณะที่โดดเด่นของ ‘นักข่าว สนิท บิ๊ ก โจ๊ก’ คือบทบาทสำคัญในการสื่อสารข้อมูลไปยังประชาชน ท่านมีส่วนร่วมในการพัฒนาข่าวสารและรายการโทรทัศน์ที่สำคัญ เสริมให้คนไทยมีความเข้าใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็นสำคัญในสังคมและการเมือง
นอกจากนี้ ‘นักข่าว สนิท บิ๊ ก โจ๊ก’ ยังมีบทบาทสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับคนในวงการและมีส่วนร่วมในการพัฒนาสื่อสารในประเทศไทย โดยการสนับสนุนการเติบโตของสื่อมวลชนในประเทศ ‘นักข่าว สนิท บิ๊ ก โจ๊ก’ ได้สร้างความความสัมพันธ์ที่เข้มแข็งกับคนในวงและช่วยในการสร้างมูลค่าในสื่อสารในประเทศไทย
ด้วยความมุ่งมั่นและความสำเร็จในงานทางสื่อสาร ‘นักข่าว สนิท บิ๊ ก โจ๊ก’ กลายเป็นสัญลักษณ์สำคัญในวงการสื่อสารในประเทศไทย และได้รับความรู้จักและเคารพจากชาวไทยในสังคมไทย

V. ปฏิกิริยาและความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับบิ๊กโจ๊ก
เหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับบิ๊กโจ๊ก (Big Joke) ได้สร้างความรุนแรงและความโต้แย้งในสังคมไทย ด้วยความรักและความเคารพต่อเขาในฐานะนายตำรวจที่เป็นสมาชิกของตำรวจตำรวจหมวดอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) ผู้คนหลายคนรู้สึกประหลาดใจและผิดหวังเมื่อได้ยินเกี่ยวกับการยอมรับของเขาในการมอบเงินให้กับกลุ่มต่าง ๆ รวมถึงผู้ทำงานในสื่อสารมวลชน โอกาสที่เขาได้กล่าวถึงการสนับสนุนนักข่าวและผู้ที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเขาเอง
แม้ว่าเขาจะพยายามอธิบายว่าการมอบเงินไม่เกี่ยวข้องกับงานหน้าที่ของเขาในฐานะเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่เหตุการณ์นี้ยังคงเป็นที่โต้แย้งและเป็นเหตุให้สูญเสียความเชื่อมั่นในความซื่อสัตย์ของบางนักข่าวและผู้สร้างชื่อใหญ่ในสื่อสารมวลชน หลายคนเริ่มสงสัยถึงระดับการแทรกแซงของกลุ่มหรือบุคคลอื่น ๆ ในงานของผู้ทำสื่อมวลชน
อย่างไรก็ตาม บิ๊กโจ๊ก ได้กล่าวว่าเป็นเพื่อนร่วมงานและเพื่อนสนิทของเขาที่ร่วมให้ความสนใจและความเสมอภาคในการทำงาน โดยเขาได้กล่าวถึงการสนับสนุนนักข่าวด้วยเงินโดยไม่เกี่ยวข้องกับเงินที่มาจากการพนันออนไลน์ใด ๆ ในบทสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ของเขา โดยระบุว่า..
“มีเงิน เส้นเงินไปแตะนักข่าว 4 คน เวลานักข่าวไปทำข่าวกับผม ผมก็ให้เขา เป็นค่าข่าว 10,000 บาท ส่วนใหญ่ให้ครั้งละ 10,000 บาท ใครไปช่วยผมก็ให้ ผมมีนักข่าวที่สนิทอยู่ 3-4 คน นักข่าวเราก็รู้ว่าเงินเดือนเขาน้อย”
ผมสนิทกับ “ม.” เขาทำข่าวให้ผมมานาน ตั้งแต่ผมเป็น ผกก.หาดใหญ่ ข้อดีของเขา คือ ผมมองว่า นักข่าวคนนี้ ไม่เคยขอตังผมเลย ไม่ได้พูดช่วย พูดเชียร์นะ เพราะนักข่าวคนไหน ไม่มีคุณธรรมผมก็ไม่ชอบ”
นักข่าวที่ชื่อ “ม.” น้องสาวเขาชื่อ “อ.” เป็นนักข่าวที่หาดใหญ่ “ม.” กับ “อ.” เขาเป็นคนสงขลา ผมสนิทกับ “ม.” มากกว่า ผมย้ายมาอยู่กทม. เขาก็มาช่วยผมทำข่าวต่างๆ ช่อง X ส่งมา ส่งคนนี้มาตลอด เพราะรู้ว่าผมคุ้นเคยกับผม ผมรู้ว่าเขานิสัยดี ผมไปไหน ก็เอาเขาติดตัวไปตลอด คอยทำคดีให้ แต่กำชับเขานะว่าทำข่าวผมต้องส่งไปให้ทุกสื่อมวลชนนะ
เงินที่ให้ ก็มี “ม.” มี “ค.” เพราะคุ้นเคยรู้จักมานาน ผมก็บอก”ค.”เอาไปใช้จ่าย โดย “ค.” เขาเป็นคนนครฯ ให้ครั้งละ 10,000 บาท ให้เป็นจ๊อบๆ ให้ไปกินข้าว ผมไม่ได้อยากเรียกมากินทุกมื้อ ก็ให้เงินเขาไปหากินกันเอง เขามากันเป็นทีมสามสี่คน มีทีมงาน ผมก็ให้หมื่นนึง
ขณะที่ สรยุทธ์ ได้พูดขึ้นว่า เเต่จริงๆ มันก็ไม่ควรให้นะ
บิ๊กโจ๊ก ได้กล่าวว่า 10,000 มันก็ไม่ได้มาก เป็นมิตรจิตมิตรใจ ผมเป็นคนที่ใจกว้าง ทำงานภาคสนามมาตลอดเข้าใจ ผมก็ทำเเบบนี้มาตั้งเเต่สารวัตร เห็นนักข่าวมาแถลงข่าวให้ น้องๆ เขาบ้าง คนละ 500 บ้าง ค่าข้าว ค่าน้ำมัน เอาเขาไปสอบได้เลย มันก็เป็นเงินผมทั้งหมด ไม่ใช่เงินเว็บพนัน
VI. บทสรุป
ในบรรดาความสับสนและความสงสัยเกี่ยวกับความจริงของ “นักข่าว สนิท บิ๊ ก โจ๊ก” ที่โอนเงินค่าข้าวหลักหมื่นให้กับกลุ่มและบุคคลต่าง ๆ จากนั้นสิ่งที่ชัดเจนคือเรื่องราวนี้ได้สร้างความสั่นสะใจและความแย่งกันในสังคมไทย การงานและความส่งเสริมที่มีชื่อเสียงของ “นักข่าว สนิท บิ๊ ก โจ๊ก” ได้รับคำถามและมุมมองส่วนตัวของเขาเกี่ยวกับการให้เงินให้กับกลุ่มและวัตถุประสงค์ของการให้เงินนี้ได้ดึงดูดความสนใจจากสาธารณชนมากมาย
ไม่ว่าจะมีความคิดเห็นที่ไม่เห็นด้วยและการโต้แย้งเกี่ยวกับลักษณะของเงินที่ถูกโอนและวัตถุประสงค์ของการให้เงิน สิ่งที่สำคัญคือความชัดเจนและความโปร่งใสจำเป็นต้องถูกส่งเสริมขึ้น. หลายคนได้แสดงความเสียใจเกี่ยวกับความเกี่ยวข้องระหว่าง “นักข่าว สนิท บิ๊ ก โจ๊ก” และเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการให้เงิน และต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับสถานการณ์นี้
แม้ว่ามีความคิดเห็นและการโต้แย้งต่าง ๆ และการสังเกตต่าง ๆ เกี่ยวกับลักษณะของเงินที่ถูกโอนและวัตถุประสงค์ของการให้เงิน สิ่งสำคัญคือการยกระดับคำถามเกี่ยวกับความโปร่งใสและความภาคภูมิใจในอาชีพของผู้สื่อข่าวและความรับผิดชอบของพวกเขาต่อสาธารณชน การงานและความร่วมมือของ “นักข่าว สนิท บิ๊ ก โจ๊ก” กำลังเผชิญกับความท้าทายและปัญหานี้อยู่ในปัจจุบัน